ฤทธิ์ต้านการเกิดแผลและสมานแผลในกระเพาะอาหาร
ขมิ้นมีฤทธิ์สมานแผลในกระเพาะอาหาร
โดยเร่งการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อที่เป็นแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น
ag-turmerone
จากน้ำมันหอมระเหยของขมิ้นเป็นสารออกฤทธิ์ป้องกันและรักษาแผลในกระเพาะอาหาร
(1) ขมิ้นสามารถต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร โดยกระตุ้นการหลั่ง mucin มาเคลือบกระเพาะอาหาร และสาร curcumin ขนาด 50
มก./กก. ก็ให้ผลเช่นเดียวกัน (2-4) และ ขมิ้นยังยับยั้งการหลั่งน้ำย่อยต่าง
ๆ ได้อีกด้วย (4)
นอกจากนี้ยังมีการทดลองทางคลินิก
ที่ใช้ขมิ้นในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการปวดท้องด้วยอาการโรคแผลในกระเพาะอาหาร
โดยเปรียบเทียบกับการใช้ยาไตรซิลิเกต (trisilicate) ซึ่งเป็นยาลดกรดขององค์การเภสัชกรรม
หลังการทดลองได้ผลดังนี้ คือ อาการดีขึ้นมากหลังรักษาด้วยขมิ้นชันครบ 12 สัปดาห์ จำนวน 15 ราย คิดเป็นร้อยละ 60 หายเป็นปกติ 1 ราย คิดเป็นร้อยละ 5.8 อาการดีขึ้นมากหลังรักษาด้วยยาไตรซิลิเกต 5 ราย
คิดเป็นร้อยละ 50 และหายเป็นปกติ 4 ราย
คิดเป็นร้อยละ 40 (5)
ต่อมาได้มีการทดลองในผู้ป่วย
10 คน เป็นชาย 8 คนและหญิง 2 คน อายุระหว่าง 16-60 ปี
เป็นแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของแผล 0.5-1.5 ซม. ซึ่งมีอาการปวดท้องและอาการอื่นๆ
ที่บ่งถึงภาวะแผลเปื่อยในกระเพาะอาหารและ/หรือลำไส้เล็ก ทำการทดสอบโดยให้รับประทานขมิ้นแคปซูลขนาด
250 มก. ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง คือรับประทานก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง 3 มื้อ
และรับประทานก่อนนอน เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ การตรวจสอบโดยการส่องกล้อง ทำในสัปดาห์ที่
0, 4, 8 และ 12 สัปดาห์ หลังจากรักษา มีผู้ป่วยแผลหาย 7 ราย (70%)
โดย แผลหายภายใน 4 สัปดาห์ 5 ราย (50%)
แผลหายภายใน 8 สัปดาห์ 1 ราย (10%) และแผลหายภายใน 12
สัปดาห์ 1 ราย (10%) (6)
การทดลองทางคลินิก
โดยให้ผู้ป่วยโรคกระเพาะชนิด gsatric ulcer (GU) จำนวน 5 ราย
และ duodenal ulcer (DU) จำนวน 20 ราย
ได้รับยาแคปซูลขมิ้นขนาด 300 มก. ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 5 ครั้ง คือรับประทานก่อนอาหาร
0.5-1 ชั่วโมง 3 มื้อ รับประทานเวลา 16.00 น. และรับประทานก่อนนอน เป็นระยะเวลา 12
สัปดาห์ พบว่าผู้ป่วย 12 ราย (DU 9 ราย และ GU 3 ราย) จาก 25 ราย คิดเป็นร้อยละ 48 แผลหายภายใน 4 สัปดาห์ ผู้ป่วย 18 ราย (DU
13 ราย และ GU 5 ราย) จาก 25 ราย
คิดเป็นร้อยละ 72 แผลหายภายใน 8 สัปดาห์ ผู้ป่วย 19 ราย (DU 14
ราย และ GU 5 ราย) จาก 25 ราย คิดเป็นร้อยละ 76 แผลหายภายใน
12 สัปดาห์ และผู้ป่วยที่แผลหายแล้ว จะไม่กลับมาเป็นแผลอีก (7)
น้ำคั้นจากเหง้าสด
ผงขมิ้น ส่วนที่สกัดด้วยอัลกอฮอล์ที่ละลายในเฮกเซน และส่วนที่สกัดด้วยอัลกอฮอล์ที่ไม่ละลายในเฮกเซน
เมื่อป้อนให้หนูขาวที่ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร 3 วิธี ได้แก่
การทำให้เครียดด้วยความเย็น ให้กรดเกลือและให้แอสไพริน พบว่ายาเตรียมและส่วนสกัดต่างๆ
ยกเว้นส่วนที่สกัดด้วยอัลกอฮอล์ที่ไม่ละลายในเฮกเซน สามารถป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้
(6)
การทดสอบโดยป้อนน้ำมันขมิ้นในขนาด 0.075, 0.15 และ
0.3 ก./กก. แก่หนูขาวก่อนถูกกระตุ้นให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารด้วย 0.6 N
hydrochloric acid และ indomethacin 50มก./กก.
เป็นเวลา 30 นาที พบว่าน้ำมันขมิ้นช่วยทำให้ pH
ในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้น
ลดการทำงานของเปปซินและเพิ่มการหลั่งสารเมือกของกระเพาะอาหาร ซึ่งฤทธิ์ดังกล่าว
จะเพิ่มขึ้นตามขนาดของน้ำมันที่ให้ และพบว่าที่ขนาด 0.3 ก./กก. ยังช่วยป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหารจาก
hydrochloric acid และ indomethacin
ได้ 97.4 และ 100% (8)
ขมิ้นสามารถยับยั้งการเกิดแผล
และช่วยไม่ให้แผลในกระเพาะอาหารเกิดเพิ่มขึ้น ซึ่งทดลองโดยให้สารสกัดอัลกอฮอล์ของขมิ้นในขนาด
500 มก./กก. กรอกเข้าทางปากแก่หนูขาว พบว่าสามารถป้องกันการเกิดแผลที่มีสาเหตุมาจาก
pyloric ligation, ความเครียดโดยใช้ความเย็น,
indomethacin, reserpine, cysteamine, 80% เมทานอล, 0.6 M hydrochloride, 0.2 M Sodium hydroxide
และ 95% Sodium chloride (9)
การทดสอบป้อนผงขมิ้นขนาด
0.5 ก./กก. แก่หนูขาวเพศผู้ ก่อนชักนำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารเป็นเวลา 3 วัน ด้วย
indomethacin ขนาด 12 มก./กก., ภาวะเครียดจากความเย็น
และการจำกัดการเคลื่อนไหว พบว่าผงขมิ้นที่ขนาดดังกล่าว
มีฤทธิ์ช่วยป้องกันและเสริมการสมานแผลในกระเพาะอาหาร
แต่มีแนวโน้มในการทำให้เกิดแผลรุนแรงมากกว่ากลุ่มควบคุมซึ่งได้รับ indomethacin
แต่ไม่ได้รับขมิ้น (10)
เมื่อให้สาร
phenyl-1-hydroxy-N-pentane ซึ่งเป็นสารอนุพันธ์ที่สังเคราะห์มาจากสารประกอบในขมิ้น
เข้าทางลำไส้เล็กส่วน duodenum ของสุนัข จะมีฤทธิ์เพิ่มการหลั่ง
secretin และ bicarbonateจากตับอ่อน โดยการออกฤทธิ์จะเพิ่มขึ้นตามขนาดของสารที่ได้รับ
และการทดลองในอาสาสมัคร 6 คน ที่ได้รับ 2% phenyl-1-hydroxy-N-pentane ขนาด 30 มล./30 นาที โดยการฉีดเข้าที่ลำไส้เล็กส่วนบนของ jejunum ก็พบว่าความเข้มข้นของ secretin และbicarbonate ในเลือดเพิ่มขึ้น (11)
0 comments:
Post a Comment