ขมิ้น มีฤทธิ์ลดการอักเสบ
มีผลทดลองพบว่าส่วนผงแห้ง
น้ำคั้น (9) สารสกัดปิโตรเลียมอีเธอร์ (12-13) สารสกัดแอลกอฮอล์ และสารสกัดน้ำของขมิ้น (13) มีฤทธิ์ลดการอักเสบ
และสารสำคัญในการออกฤทธิ์ลดการอักเสบ คือ สาร curcumin และอนุพันธุ์ของสารดังกล่าว
(13-21) และเมื่อเปรียบเทียบกับ phenylbutazone พบว่ามีฤทธิ์ใกล้เคียงกันในกรณีของการอักเสบแบบเฉียบพลัน
ส่วนกรณีของการอักเสบแบบเรื้อรังจะมีฤทธิ์เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
โดยทำการทดลองฉีดสารสกัดขมิ้นขนาด 160 มก./กก. เข้าทางกระเพาะอาหารของหนูขาว พบว่ามีฤทธิ์ยับยั้งการอักเสบคิดเป็น
29.5% และสาร curcumin เป็นสารออกฤทธิ์
นอกจากนี้ สารดังกล่าวยังทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้น้อยกว่า phenylbutazone
(16) การทดสอบฤทธิ์ของ curcumin และอนุพันธุ์ที่สกัดจากขมิ้น
พบว่า desoxycurcumin ออกฤทธิ์ต้านการอักเสบได้ดีที่สุด (18)
อนุพันธ์ต่างๆ ที่ได้จากการสังเคราะห์ curcumin คือ sodium curcuminate และ tetrahydrocurcumin
เมื่อนำมาทดสอบฤทธิ์ต้านการอักเสบ พบว่าออกฤทธิ์ได้ดีกว่า curcumin
(17) สาร curcumin จะมีฤทธิ์ลดการอักเสบ เป็นสัดส่วนกับขนาดที่ใช้
จนถึงขนาด 30 มก./กก. เมื่อให้สูงกว่านี้ฤทธิ์จะลดลง
(18) ต่อมามีรายงานว่าสาร curcumin สามารถออกฤทธิ์ยับยั้งการสังเคราะห์ luekotrine B4 ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบได้ (22)
น้ำมันหอมระเหยในเหง้าขมิ้นมีฤทธิ์ลดการอักเสบ
(23-24) โดยมีฤทธิ์ต้าน histaminในระยะแรกของการอักเสบ
โดยผ่านกระบวนการยับยั้ง trypsin หรือ hyaluronidase
(25) น้ำมันจากใบขมิ้นที่ได้จากการสกัดด้วยไอน้ำ
มีฤทธิ์ต้านการอักเสบในหนูขาวที่ถูกชักนำให้อุ้งเท้าบวมด้วย carrageenin และ cotton pellet โดยน้ำมันหอมระเหยขนาด 1.6
มล./กก. มีฤทธิ์ต้านการอักเสบได้เทียบเท่ากับ phenylbutazone ขนาด 100 มก./กก. (26)
น้ำคั้นจากขมิ้นมีฤทธิ์ต้านการอักเสบเมื่อทดสอบกับหนูขาวที่ถูกชักนำให้เกิดการอักเสบที่อุ้งเท้าด้วยสาร
carragenan พบว่าน้ำคั้นขมิ้นขนาดต่ำสุดที่สามารถแสดงฤทธิ์ต้านอักเสบได้มีขนาดเทียบเท่าเหง้าขมิ้นสด
0.5 ก./กก. เมื่อให้ทางช่องท้อง และขนาด 20 ก./กก. เมื่อให้ทางปาก
ส่วนผงขมิ้นชันขนาดต่ำสุดที่แสดงฤทธิ์เมื่อให้ทางปากคือ 2 ก./กก
หรือเทียบเท่าขมิ้นสด 14.8 ก./กก. สารสกัด 95% เอทานอล
และส่วนสกัดที่ละลายในเฮกเซน
แสดงฤทธิ์ต้านการอักเสบเมื่อให้เข้าทางช่องท้องและทางปาก
ขนาดต่ำสุดที่แสดงฤทธิ์ต้านการอักเสบได้มีขนาดเทียบเท่าผงขมิ้นชัน 1.1 และ 0.8
ก./กก. ตามลำดับ เมื่อให้ทางช่องท้อง และ 2.2 และ 3.3 ก./กก.
ตามลำดับเมื่อให้ทางปาก (27) สารสกัดน้ำจากขมิ้นมีฤทธิ์ต้านการอักเสบที่เกิดจากการเหนี่ยวนำด้วยเชื้อที่ทำให้เกิดสิว
(Propionibacterium acnes) ซึ่งพบว่าสารสกัดจากขมิ้นมีฤทธิ์ยับยั้งการเกิด
oxidative burst จากการเหนี่ยวนำด้วยเชื้อได้ 40.3% นอกจากนี้ สารสกัดน้ำจากขมิ้นยังสามารถยับยั้งการสร้าง interleukin-8
และ tumor necrosis factor-a จาก polymorphonuclear
leukocytes ของมนุษย์ได้ 29.8 และ 57.6%
ตามลำดับ เมื่อใช้สารสกัดในขนาด 50 มคก./มล. ยับยั้งได้ 18.1 และ 43.5% ตามลำดับ เมื่อใช้สารสกัดในขนาด 5 มคก./มล (28)
สารสกัดเมทานอลของขมิ้น มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ cyclooxygenase-II
(COX-II) และ nitric oxide synthase (iNOS) ได้
74.0 และ 88.4% ตามลำดับ เมื่อทดสอบที่ขนาด 10 มคก./มล. (29)
สาร curcumin
จากขมิ้นมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ด้วยการยับยั้งการออกฤทธิ์ของเอนไซม์
5-lipoxygenase เมื่อทดสอบกับ neutrophils ของหนูขาว และยังยับยั้งการออกฤทธิ์ของเอนไซม์ 12-lipoxygenase และ cyclooxygenase ในเกล็ดเลือดของมนุษย์
ซึ่งเอนไซม์เหล่านี้จะทำงานเมื่อเกิดการอักเสบ (30) สารสกัดจากเหง้าขมิ้นแห้งแสดงฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์
cyclooxygenase และ prostaglandin synthetase ซึ่งพบว่าสารที่ออกฤทธิ์คือ 1,7-bis(4-hydroxy-3-methoxyphenyl)1,6-heptadiene-3,5-dione
(curcumin) และ
p-hydroxycinnamoylferuloylmethane-1,6-heptadiene-3,5-dione โดยนำสารที่ได้นี้ไปทดสอบกับเลือดม้า
เปรียบเทียบกับ flunixin mrglumine ซึ่งเป็นสารในกลุ่ม non-steroidal
anti-inflammatory (NSAID) (31) สาร curcumin,
monodemethoxycurcumin และ bisdemethoxycurcumin จากขมิ้นในขนาด 125 มคก./มล. มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ cyclooxygenase-I (COX-I) 32, 38.5 และ 39.2% ตามลำดับ และที่ขนาดเดียวกัน ยังมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ cyclooxygenase-II (COX-II) 89.7, 82.5 และ 58.9% ตามลำดับ (32) สารสกัดหยาบของขมิ้นซึ่งมีปริมาณของ curcumin
(i), demethoxycurcumin (ii) และ bis-demethoxycurcumin
(iii) 21.4, 7.2 และ 5.1% โดยน้ำหนัก ตามลำดับ
มีค่า IC50 ต่อการสร้าง PGE2
0.13 มคก./มล. น้ำมันจากขมิ้นซึ่งมี (i), (ii) และ (iii) 25.7, 8.7 และ 6.2%
โดยน้ำหนัก ตามลำดับ มีค่า IC50 ต่อการสร้าง
PGE2 0.48 มคก./มล. curcuminoids ซึ่งมี (i), (ii) และ (iii) 74.2,
14.9 และ 4.5% โดยน้ำหนัก ตามลำดับ มีค่า IC50
ต่อการสร้าง PGE2 2.66 มคก./มล. (33)
แต่การใช้สารสกัดขมิ้นซึ่งมีสารต่างๆ และน้ำมันขมิ้น
จะให้ฤทธิ์ต้านการอักเสบที่ดีกว่าการใช้เพียงสารใดสารหนึ่ง
โดยกลไกการออกฤทธิ์จะเกี่ยวข้องกับการยับยั้งการสร้าง prostaglandin E2
(PGE2)และยับยั้งการออกฤทธิ์ของเอนไซม์ COX-II
(34) สาร curcumin จากขมิ้นมีฤทธิ์ยับยั้งการสร้าง
macrophage inflammatory protein-2 (MIP-2) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการรักษาการอักเสบ
(35) สาร cinnamyl tiglate จากน้ำมันหอมระเหยของขมิ้นมีฤทธิ์ต้านการอักเสบเมื่อทดสอบกับหนูขาวที่ถูกชักนำให้เกิดการอักเสบด้วย
carrageenin พบว่าการป้อนหนูด้วย cinnamyl tiglate ในขนาด 4.4% ต่อน้ำหนักตัว 1 กก.
สามารถลดการอักเสบและฤทธิ์จะมากขึ้นเมื่อป้อนในขนาด 17.6%
ต่อน้ำหนักตัว 1 กก. (36) สารจากขมิ้น 6 ชนิดคือ 1,5,-bis(4-hydroxy-3-methoxyphenyl)-(1E,4E)-1,4pentadien-3-one,
1-(4-hydroxy-3-methoxyphenyl)-5-(4-hydroxyphenyl)-(1E,4E)-1,4-pentadien-3-one,
curcumin, demethoxycurcumin, bisdemethoxycurcumin และ 5’-methoxycurcumin
มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ
เมื่อทดสอบกับใบหูของหนูถีบจักรที่ถูกชักนำให้เกิดการอักเสบด้วย 12-O-tetradecanoylphorbol-13-acetate
ในขนาด 0.6 ไมโครโมลาร์ โดยที่ bisdemethoxycurcumin มีฤทธิ์ดีที่สุด (37)
JCICM-6 เป็นตำรับยาที่ประกอบด้วยสารสกัดจากพืชหลายชนิดรวมทั้งขมิ้น
ซึ่งสกัดด้วยวิธี supercritical CO2 จากการทดลองพบว่าการป้อนหนูขาวด้วย
JCICM-6 ขนาด 0.438 – 1.75 ก./กก.
สามารถลดการบวมที่อุ้งเท้าหนูที่ถูกชักนำด้วย carragenan และสารก่อการอักเสบอื่นๆ
เช่น histamine, serotonin, bradykinin และ prostaglandin
E2 (PGE2) ได้
และลดการบวมที่ใบหูของหนูถีบจักรที่ถูกชักนำด้วย arachidonic acid หรือ 12-O-tetradecanoyl phorbol 13-acetate (TPA) ได้
นอกจากนี้ยังยืดเวลาของปฏิกิริยาตอบสนองต่อการกระตุ้นด้วยความร้อนในหนูขาว
และลดจำนวนของ writhing episodes ของหนูถีบจักรที่ถูกชักนำด้วยการฉีด
0.8% w/v acetic acid in 0.9% w/v NaCl ขนาด 0.2 มล.
เข้าที่ช่องท้องหนู ซึ่งแสดงให้เห็นว่า JCICM-6 มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและบรรเทาปวด
(38) ผลิตภัณฑ์ครีมขมิ้นชัน ซึ่งมีสารสำคัญคือ curcumin,
desmethoxycurcumin, bisdesmethoxycurcumin และ aromatic
turmerone เท่ากับ 0.78, 0.19 0.16 และ 0.87%w/v ตามลำดับ มีฤทธิ์ต้านการอักเสบที่เกิดจาก bradykinin
(39) ยาเตรียมจากขมิ้นมีฤทธิ์ต้านการอักเสบเมื่อทำการทดสอบในหนูขาวและหนูถีบจักรที่ถูกชักนำให้เกิดการอักเสบที่อุ้งเท้าด้วย
carrageenan จากการทดลองพบว่า ยาเตรียมในรูปแบบ aqueous
paste 1%w/w W/O (water in oil) cream และ 1% w/w O/W (water
in oil) cream มีความสามารถยับยั้งอาการบวมที่อุ้งเท้าหนูขาวได้
30.23, 36.84 และ 55.55% ตามลำดับ
และยาเตรียมในรูปแบบ O/W cream ที่ความเข้มข้น 1%w/w และ 1.5w/w มีความสามารถยับยั้งอาการบวมที่อุ้งเท้าหนูถีบจักรได้
65.52 และ 95.52% ตามลำดับ (40)
การศึกษาทางคลินิกแบบ randomized, double-blind, placebo
controlled, cross-over study ในผู้ป่วยกระดูกข้ออักเสบเรื้อรังจำนวน
42 คน โดยใช้ยาสมุนไพรที่มีส่วนประกอบของเหง้าขมิ้น 50 มก./แคปซูล 650 มก.
พบว่าการได้รับยาสมุนไพรดังกล่าวสามารถลดความเจ็บปวดที่รุนแรงได้ (41)